คคส เตือน อย่าเสี่ยงเสียชีวิตจากยาออนไลน์ รัฐต้องเร่งมาตรการป้องภัย

การเสียชีวิตจากการซื้อยาทางเฟซบุ๊กสำหรับประเทศไทยกลายเป็นเรื่องปกติเข้าทุกวัน คล้ายการข้ามถนนโดยไม่ข้ามทางม้าลาย การขับรถย้อนศร ที่ปัจจุบันไม่เพียงมอเตอร์ไซค์ที่ย้อนศร แม้แต่รถกะบะก็ย้อนศร ในถนนเลนกลาง จนปะทะกับรถเก๋งและมีเด็กเล็กเสียชีวิต ร้านขายยาที่ใช้เภสัชกรแขวนป้าย การขายยาออนไลน์ที่ทำได้ง่ายและ รัฐไม่มีความสามารถที่จะจัดการ ปรากฏการณ์เช่นนี้พบมากขึ้น. ในอดีตเคยมีการขายยาออนไลน์จากประเทศไทย ส่งไปขายให้ผู้ป่วยที่สหรัฐ และเกิดการเสียชีวิต พบว่า เอฟบีไอ ของสหรัฐตามมาจัดการ พบว่ามีแหล่งขายในภาคเหนือ. กรณีล่าสุดนี้ ที่เกิดการเสียชีวิต จึงควรมีการสอบสวนย้อนกลับเพื่อการดำเนินการ เพราะการซื้อขายย่อมมีหลักฐานที่อยู่และการโอนเงิน

การปล่อยปะละเลยการบังคับใช้กฎหมายจะทำให้ปัญหาพอกพูน คนทำผิดรู้สึกว่าไม่มีใครสนใจ และทำต่อไปเรื่อยๆ จนทุกคนรู้สึกจำนนต่อปัญหา ดังกรณี การขายยาแก้ไอที่นำไปสู่การเสพติดในภาคใต้ และประชาชนต้องลุกขึ้นมาทวงถามเรียกร้องให้รัฐเข้ามาดำเนินการรับผิดชอบต่อผลเสียที่เกิดกับเยาวชน นำสู่การจัดการกับบริษัทผู้ผลิตยา ที่เป็นต้นตอการส่งยาขายอย่างผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ มาตรการเพียงการให้การศึกษาผู้บริโภคคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องพัฒนามาตรการด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีที่จะดำเนินการกับผู้ละเมิดกฎหมาย และ มาตรการบังคับใข้กฎหมายที่จริงจังต่อเนื่อง มากกว่าที่เป็นอยู่. ตัวอย่างที่เกิดขึ้นนี้ คือ ผลข้างเคียงของการใช้เทคโนโลยี
ของมิจฉาขีพที่นำมาสู่การเสียชีวิตของผู้ป่วย ที่จำเป็นต้องสร้างมาตรการป้องปรามก่อนที่จะทำให้เกิดการขยายตัวต่อไปจากภัยเทคโนโลยีออนไลน์

อ้างอิง ข่าว เสียชีวิตจากการสั่งซื้อยาผิวขาวและเพิ่มขนาดหน้าอกจากทางเฟซบุ๊ก จาก ข่าวสด

สลดสาวกินยาผิวขาว-เสริมอึ๋มช็อกตายก่อนวันเกิด ญาติร่ำไห้-เพื่อนต้องหอบเค้กวางหน้าโลง