รพ.ดอกคำใต้ ขยายผล สร้างนักวิทย์คุ้มครองต่อในพื้นที่ มุ่งเป็นต้นแบบอำเภอจัดการสุขภาพ
เมื่อ วันที่ 5 พ.ค. รพ.ดอกคำใต้ได้จัดการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพ อสม.เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในเขต รพ.สต.ขุนลาน และ รพ.สต.หนองหล่ม โดยมีอสม.เข้าร่วมหมู่บ้านละ 2 คน รวมทั้งหมด 30 คน
โดยเนื้อหาการอบรม เน้นการสำรวจครัวเรือนเพื่อสำรวจการใช้ยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดที่อาจจะปนเปื้อนสเตียรอยด์ ในผู้ป่วยโรคเรื้อรังและสูงอายุ และค้นหาผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้สเตียรอยด์ และการใช้ชุดทดสอยสเตียรอยด์ เพื่อให้อสม.สามารถทดสอบเองได้ และแนะนำประชาชนเบื้องต้น อีกทั้งการสร้างกลไกการแจ้งข่าวเพื่อสื่อสารข้อมูลด้านคุ้มครองผู้บริโภคและเตือนภัยสินค้าไม่ปลอดภัย
ภญ.รุจิราได้ นำความรู้จากการอบรมมาขยายเครือข่ายต่อและกล่าวขอบคุณกับทีมงานผู้จัดงานว่า “ขอขอบคุณทีมงานผู้จัดที่ให้ความรู้ดีๆ และช่วยสอน อสม.นักวิทย์ฯ ได้ความรู้ดีๆแบบนี้ต้องบอกต่อเพื่อสร้างเครือข่ายในอำเภอค่ะ”
การอบรมในพื้นที่นี้เป็นการขยายผลภายหลังการอบรม การขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องพุดตานโรงแรมพะเยาเกตเวย์จังหวัดพะเยา โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา และ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายจังหวัดพะเยา คาดหวังว่าศูนย์วิทย์ฯเชียงรายจะร่วมขับเคลื่อน อสม.นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ต่อไปจนได้ปลอกแขน อสม.นักวิทย์และเป็นเครือข่ายต้นแบบระดับอำเภอจัดการสุขภาพในที่สุด
เภสัช รพ.ดอกคำใต้ เตือนห้ามใช้ “ยาจินดามณีผีบอก” พบมึเสตียรอยด์ และไพรอกซิแคม ทำคนไข้แพ้ยารุนแรง
ในการอบรม การขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องพุดตานโรงแรมพะเยาเกตเวย์จังหวัดพะเยา โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา และ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภญ.รุจิรา ปัญญา ร.พ.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เล่าว่าได้พบคนไข้แพ้ยารุนแรง จากการกิน”ยาผงจินดามณีผีบอก” เมื่อส่งยาตรวจพบยาเด็กซ่าเมธาโซน และ ยาไพรอกซิแคม ซึ่งโดยทั่วไปมักพบว่ามีเพียงเด็กซ่าเมธาโซนที่อันตรายมากอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตรวจพบ ยาไพรอกซิแคมร่วมด้วย คนไข้กินยาครั้งเดียวก็ทำให้เกิดยาแพ้ยารุนแรง
ภญ.รุจิรา ปัญญา เปิดเผยรายละเอียดว่า เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมามีผู้ป่วยมารักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการหอบ หายใจเหนื่อย ความดันสูง มีผื่นขึ้นตามตัว แบบ fixed drug eruption ซึ่งเป็นผื่นที่มีลักษณะคล้ายรอยจ้ำ แต่จะออกจุดเดิมที่เคยแพ้ยา
เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ป่วยพบว่าผู้ป่วยเคยแพ้ยาแก้ปวดไพรอกซิแคมอยู่เดิม จึงสงสัยว่ายาจินดามณี (ยาผีบอก) ต้องมียาตัวอื่นผสมนอกจากยาสเตียรอยด์ จึงส่งรายงานทางหน้าต่างเตือนภัย (single window) และส่งตัวยาไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย เพื่อตรวจหายาที่ปลอมปนอยู่
ผลยืนยันจากศูนย์วิทยาศาสตร์ พบว่ามีเด็กซ่าเมทาโซนและไพรอกซิแคม และผู้ป่วยมีอาการสอดคล้องกับการแพ้ยาซ้ำ ซึ่งอันตรายและเกิดขึ้นเร็วกว่าการแพ้ยาในครั้งแรก
เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ได้รับอันตรายในฐานะเภสัชกรจึงขอเตือนฝากประชาชนว่าอย่าซื้อยาที่ไม่มีทะเบียนหรือทะเบียนไม่ถูกต้องมาใช้ โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยาอยู่แล้ว ทั้งนี้ อยได้แจ้งเตือนมาก่อนหน้านี้ว่า ยงผงจินดามณีใช้เลขทะเบียนในสาระบบของผลิตภัณฑ์อื่นถือเป็นการปลอมแปลง
จึงขอเตือนให้หลีกเลี่ยงการใช้เพื่อจะได้ไม่ได้รับอันตรายจากการใช้ยา
เครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคเหนือ ขยาย อสม. นักวิทย์คุ้มครอง รวมสิบจังหวัด ครั้งแรกใช้”สมาร์ทโฟน”ประเมินความรู้ อสม. ก่อนหลังแบบออนไลน์ รู้ผลทันที
ศูนย์วิทย์เชียงราย เปิดตัวขับเคลื่อนเครือข่ายที่พะเยา หลังเปิดตัววันแรกที่เชียงราย ขยายจำนวน รงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ. (รพสต) และ อสม. นักวิทยาศาสตร์คุ้มครองผู้บริโภคครอบคลุมในสิบจังหวัดภาคเหนือ กว่าสองพันคนหลังได้สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ (สอน) เป็นต้นแบบ
นายวิชัย ปราสาททอง ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดการอบรม”โครงการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดพะเยา”ในวันที่ 5 พ.ค.2560 ณโรงแรมพะเยาเกทเวย์
การอบรมในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ รพ.สต. รพช. สสอ. สสจ. และอสม.ตำบลละ 2 คน (จนท.สธ.9อำเภอ 90คน,จนท.สสจ. 3 คน, อสม.183คน, ศูนย์ฯเชียงราย 13 คน) รวมทั้งสิ้น 289 คน โดยมี นายสุรศักดิ์ ชัยชนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นประธานเปิดงาน และได้รับเกียรติจาก รศ.ภก.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ ได้ให้ความรู้การคุ้มครองผู้บริโภคในชุมชน และมีการบรรยายอันตรายของผลิตภัณฑ์สุขภาพ การจัดการสุขภาพด้วยหน้าต่างแจ้งเตือนภัย และการใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย 4 ชุด ภาคฝึกปฏิบัติแยกกลุ่ม อสม.ฝึกปฏิบัติการใช้ชุดทดสอบ
โดยมี อสม.นักวิทย์ฯจาก สอน.แม่ปืม และอนาลโยเป็นครูพี่เลี้ยง กลุ่มจนท.สธ.ใช้ฐานข้อมูลจากหน้าต่างเตือนภัยสุขภาพ และการจัดตั้งศูนย์แจ้งเตือนภัยฯในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้พัฒนาการประเมินผลความรู้ก่อน-หลังการอบรมผ่านแบบประเมิน online กับ อสม. นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้ เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทดสอบ
โดยพบว่าก่อนการอบรมมีค่าเฉลี่ยและค่ามัธยฐานคะแนนความรู้ที่ร้อยละ 66.67 (ตอบแบบประเมิน271คน) หลังการอบรมพบว่ามีค่าเฉลี่ยแลัค่ามัธยฐานคะแนนเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 86.67(ตอบแบบประเมิน247คน)
การอบรมได้รับความสนใจและทั้ง อสม และ จนท มีความตืนตัวมีการยกปัญหาในพื้นที่มาอภิปรายหาทางแก้ เช่น ยาผงจินดามณีผีบอกผสมเสตียรอย์ โดยที่ รพช ดอกคำใต้ มีการใส่ยาไพรอกซิแคมเข้าไปด้วยทำให้ผู้ป่วยแพ้ยารุนแรง ดังนั้นเครือข่ายฯ
จึงต้องรวมตัวและร่วมมือกันป้องภัยชุมชนกันอย่างแข็งขัน การอบรมนี้ทำให้ได้รูปแบบที่จะดำเนินการต่อไปในจังหวัดต่างๆในภาคเหนือรวมสิบจังหวัด
ตั้งราคาสูงหลอกผู้บริโภค เพื่อให้หลงเชื่อว่าลดราคา
สามคำถามแนะนำก่อนซื้อของลดราคาที่อ้างว่าลดแหลก ถามพนักงานขายว่า
ร้านนี้เคยขายราคานี้จริงไหม ถ้าขาย เคยขายมานานเท่าไรแล้ว ลองหาราคาที่อื่นเปรียบเทียบ ในสหรัฐอเมริกา ได้มีการเปิดเผยว่า หลายห้างใหญ่ได้ตั้งราคาที่ไม่เคยได้ขายจริง เป็นกลยุทธการตลาด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับราคาที่เป็นจริง เรียกว่า ราคาหลอก หรือ ราคาปลอม Fake original price เป็นการเพิ่มราคาไปจากราคาจริง ราคาที่แสดงไว้ก็ไม่เคยขายในราคานี้
Consumer report. เคยรายงานว่า มีการฟ้องคดีแบบกลุ่ม ในปี 2553 ในสหรัฐอเริกาที่มีการขายกระเป๋าและเสื้อผ้า ด้วยราคาหลอกสูงกว่าจริง 32-50%
“At issue is a 2010 class-action lawsuit by a consumer who said he would not have purchased luggage and clothing at Kohl’s that were advertised as having been marked down from 32 to 50 percent had he known that those items routinely were being sold at discounted prices.”
ดูเพิ่มเติม ใน NBC
http://www.nbcnews.com/business/consumer/jcpenney-sears-macy-s-kohl-s-sued-fake-sale-pricing-n694101
ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี จะเป็น”วันความปลอดภัยจากการทำงาน” สำหรับปีนี้ (2560) เครือข่ายผู้ป่วยจากการทำงาน กับสมานฉันท์แรงงานไทย และ คคส. จัดงาน”วันความปลอดภัยจากการทำงาน”
ในวันงาน เปิดงานด้วยการรำลึก 24 ปีโศกนาฎกรรมเคเดอร์ ที่เกิดเมื่อ 24 ปีที่แล้ว และ นำเสนอปัญหา อันตรายจากแร่ใยหิน ทำไมต้องงดใช้และนำเข้า
ซึ่งในวันดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ทันตแพทย์ศิริเกียรตื เหลียงกอบกิจ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมาเป็นประธานเปิดงาน ที่โรงแรม ทีเคปาร์ก นนทบุรี โดยมีวิทยากรจากคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กรมควบคุมโรค และ ผู้แทนผู้ใช้แรงงานนำเสนอข้อมูลทางวิชาการและให้ความรู้เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันอันตรายจากแร่ใยหินต่อไป
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตือนภัยหมอเถื่อนหลอกฉีดยารักษาริดสีดวงทำผู้ป่วยติดเชื้อ
นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงม่วน และโรงพยาบาลเชียงม่วน ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๐ ในพื้นที่หมู่ ๑ บ้านหลวง ตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา มีบุคคลแอบอ้างเป็นผู้ประกอบวิชาชีพจากคลินิกแห่งหนึ่งมาให้การรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารด้วยวิธีการฉีดยาเข้าบริเวณที่เป็นริดสีดวง ที่บ้านของผู้ป่วยแต่ละราย
พร้อมทั้งมีการจ่ายยาอันตรายให้กับผู้ป่วยหลังการรักษา คิดค่ารักษาอยู่ระหว่าง ๑๕,๐๐๐ – ๓๕,๐๐๐ บาท โดยบอกว่าขึ้นอยู่กับอาการที่เป็น ขณะนี้มีผู้เข้ารับการรักษาอยู่ ๗-๘ ราย และพบว่า มีผู้ป่วย ๑ ราย เกิดอาการติดเชื้อที่แผลริดสีดวง จนต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพะเยา เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งผู้ป่วยให้ข้อมูลเพิ่มว่า ได้รับโทรศัพท์ข่มขู่ว่าอาจเกิดอันตรายต่อชีวิต หากนำเรื่องมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ
ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อแจ้งดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากทำการรักษาและจ่ายยาอันตรายในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ตลอดจนแอบอ้างเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ และได้ทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตราย
นอกจากนี้ ภญ.พิมพ์ชนก หยีวิยม หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ได้กล่าวถึงอันตรายจากสินค้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีผู้ขายมาหลอกลวงในชุมชนในรูปแบบต่างๆ การป้องกันสามารถดำเนินการได้ โดยผู้บริโภคและชุมชนต้องร่วมมือกันป้องกันปัญหา
พร้อมทั้งยกตัวอย่าง หมอเถื่อนหลอกฉีดยารักษาริดสีดวง ทำผู้ป่วยติดเชื้อในจังหวัด ทั้งอันตราย โรคไม่หายและเสียเงิน ในการประชุม เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ในการอบรม การขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดพะเยา ที่ ห้องพุดตานโรงแรมพะเยาเกตเวย์จังหวัดพะเยา
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา และ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
http://www.pyomoph.go.th
ไม่เพียงหญิงสาวที่ควรหันมาใส่ใจกับส่วนผสมในเครื่องสำอางให้มากขึ้น แต่ชายหนุ่มและทุกคน น่าจะเริ่มสังเกตฉลากบนผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่ใช้อยู่เป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู หรือโลชั่น ว่าเราพอจะคุ้นหูสารเคมีตัวใดบ้าง เพราะแต่ละวัน ผู้หญิงชาวอเมริกันใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย 12 ชนิดต่อวัน ซึ่งประกอบด้วยสารเคมีตั้งแต่ 126 ชนิดขึ้นไป
เครื่องสำอางของสาวๆ และสารเคมีที่พบได้ รองพื้น: โลหะหนัก อาทิ อาร์เซนิก ไทเทเนียมไดออกไซด์ อายแชโดว์: ฟอร์มัลดีไฮด์ / โลหะหนัก / mineral oils ได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อายไลเนอร์: โลหะหนัก / คาร์บอนแบล็ค มาสคารา: ฟอร์มัลดีไฮด์ / คาร์บอนแบล็ค บลัช: พาราเบนส์ (สารกันเสียยอดนิยม) / ทัลก์ / mineral oils ลิปสติก: ตะกั่ว / BHA (สารกันเสีย) / mineral oils
โดยสารเคมีเหล่านี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง ส่งผลให้เกิดสภาวะมีบุตรยาก ไปจนถึงภาวะพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์
แจเน็ต นูเดลแมน ผู้อำนวยการด้านโครงการและนโยบายของกองทุนมะเร็งเต้านม (Breast Cancer Fund) และผู้จัดการโครงการ Campaign for Safe Cosmetics ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ข้อมูลว่า มีสารเคมีกว่า 10,000 ชนิดอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
ภายใต้กฎหมายสหรัฐ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและส่วนผสมต่างๆ ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) ก่อนการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ แม้จะพบสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว อาทิ พบสารฟอร์มัลดีไฮด์ (สารตัวเดียวกับฟอร์มาลิน แต่ฟอร์มาลินอยู่ในสถานะของเหลว ส่วนฟอร์มัลดีไฮด์มีสถานะเป็นก๊าซ) ในผลิตภัณฑ์ของบรรษัทใหญ่บางราย แต่กลับไม่มีการเรียกคืนสินค้าแต่อย่างใด
นูเดลแมนเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ผู้บริโภคสหรัฐโดยเฉพาะหญิงสาวอยู่ในข่ายน่าเป็นห่วง จากสถิติที่สหภาพยุโรปแบนสารเคมีในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากกว่า 1,300 ชนิด แต่ในสหรัฐมีการห้ามใช้สารเคมีเหล่านี้เพียง 11 ชนิด
นอกจากคำแนะนำในการสังเกตส่วนผสมบนฉลากก่อนเลือกซื้อ โดยยิ่งมีส่วนผสมน้อยอย่างเท่าไหร่ ยิ่งมีแนวโน้มจะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น เธอยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีการเติมกลิ่น (fragrance) เพราะคำนี้คำเดียว อาจมีสารเคมีซ่อนตัวอยู่หลายสิบตัว ดังที่มีแคมเปญรณรงค์เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตสเปรย์ระงับกลิ่นกาย ให้ข้อมูลกับผู้บริโภคว่าผสมสารเคมีตัวใดลงไปบ้าง เพราะมีข้อมูลว่า มีผู้แพ้กลิ่นสังเคราะห์เหล่านี้ระหว่าง 2-11 เปอร์เซ็นต์ของประชากร
ข้อมูลอ้างอิงจาก : waymagazine.org
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ รุกสร้างฐานงานคุ้มครองผู้บริโภคในชุมชนด้วยความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมมือกับ ศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานสาธารณสุขสี่จังหวัด ประกอบด้วย สสจ.ลำพูน สสจ.แม่ฮ่องสอน สสจ.ลำปาง สสจ.เชียงใหม่ สร้าง อสม. นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนกว่าพันคน
เภสัชกรวรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่า การประชุมที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ถือเป็นการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคครั้งใหญ่ที่จะทำให้เกิดการปกป้องชุมชนจากสินค้าอันตรายที่เข้ามาในชุมชน
นับได้ว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในขุมชนเพื่อความยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์คุ้มครองผู้บริโภคที่กำลังดำเนินการใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีอาสาสมัครนักวิทย์คุ้มครองที่ผ่านการอบรมกว่า 10,000 คน มาจาก รพสต. กว่า 5000 แห่งทั่วประเทศ กระจายในทุกภูมิภาค
อสม.ที่ได้รับการประเมินว่า มีความรู้ดีมีความตั้งใจ มีผลงานจะได้รับปลอกแขนเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็น อสม.นักวิทย์คุ้มครองผู้บริโภค
ซึ่งบทเรียนจากการดำเนินงานกับ อสม. ในสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ หรือ สอน ประสบความสำเร็จอย่างดีจึงนำมาขยายต่อและเชื่อว่า จะทำให้ชุมชนตื่นตัวลุกมาป้องกันภัยจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
นายสังคม วิทยนันทนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 กล่าวว่า การจัดอบรมครั้งนี้ จะต่อเนื่องในเดือน พฤษภาคม และ มิถุนายน 2560 โดยจะมีการจัดอบรมรวม 11 รุ่น 11 วัน
วันที่ 17-18-19 พ.ค. ที่ ลำพูน วันที่ 24-25-26 พ.ค. ที่ แม่ฮ่องสอน วันที่ 31-1-2 มิ.ย. ที่ ลำปาง และ วันที่ 8-9 มิ.ย. เชียงใหม่
ซึ่งเชื่อว่า การอบรมครั้งนี้ จะทำให้เกิดพลังชุมชนปกป้องประชาชนจากความเสี่ยงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่ไม่เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้จะให้ อสม. และ นักวิทย์ชุมชน ได้ใช้ชุดทดสอบสารเสตียรอยด์ เครื่องสำอาง ใช้หน้าต่างเตือนภัย รู้เรื่องการจำแนกผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ การตั้งศูนย์เตือนภัยใน รพสต. โดยจะมีการทดสอบความรู้ก่อน และหลังการอบรม เพื่อจะต่อยอดเป็นแกนนำในระดับตำบลทำงานกับ อสม. ทั้งหมดของชุมชนต่อไป
VIDEO VIDEO
ไมโครบีดส์ กับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ในยุคไทยแลนด์ 4.0
ไทยแลนด์ 4.0 มีแนวคิด บูรณาการผลผลิตที่นำสู่รายได้ที่สูงขึ้น (Productive growth) การสร้างความเท่าเทียมทางสังคม (Inclusive growth or No one left behind) และ การบริบาลพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (Green growth) เรื่องการบริบาลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
จึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญ “ไมโครบีดส์”ได้ถูกนำมาใช้ในสินค้าเพิ่มมูลค่าเชิงนวตกรรม
แต่วันนี้ โลกและสังคมเริ่มตั้งคำถาม และเรียกร้องทบทวนสถานภาพการดำรงอยู่ในสินค้าของผู้บริโภค
ไมโครบีดส์ เป็น เม็ดพลาสติกขนาดเล็ก หรือ ไมโครพลาสติกส์ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไมโครบีดส์ถูกนำมาใช้ผสมในเครื่องสำอางค์ เช่น ยาสีฟัน สครัปหน้า ยากันแดด โฟมอาบน้ำ และ ผงซักฟอก เป็นต้น และไมโครบีดส์ไม่สามารถย่อยสลายได้
มีรายงานจำนวนมากชี้ว่า ตัวไมโครบีดส์เองไม่อันตรายต่อคน แต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่กินเข้าไป เมื่อไมโครบีดส์ปนลงไปในสิ่งแวดล้อม เช่น แหล่งน้ำ สาธารณะ หลังการใช้ของผู้คน เมื่อสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่กินเข้าไปก็จะเป็นผลให้ตายได้ เพราะไม่สามารถย่อยสลาย
นอกจากนี้การที่ไมโครบีดส์ดูดซับสารพิษที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ตัว เมื่อสัตว์น้ำกินเข้าไปก็จะอยู่ในสัตว์ และเมื่อสัตว์มาเป็นอาหารของคน ก็จะทำให้เป็นพิษต่อคนได้ต่อไปในวงจรห่วงโซ่อาหาร
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
http://waymagazine.org/microbeads-pollution/
http://waymagazine.org/banmicrobeadsincanada/
“สกลนคร”รุกหนุนชุมชนเข้มแข็ง เป็นจังหวัดจัดการสินค้าไม่ปลอดภัยสร้างนวตกรรม”ซาเล้ง”แจ้งเตือนภัย
การจัดประชุม อาสาสมัครสาธารณสุขนักวิทยาศาสตร์การแพทย์คุ้มครองผู้บริโภค (อสม) และ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล (รพสต) จากทุกตำบลๆละ 2คน รวม 250 คน เพื่อการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพในชุมชน ที่โรงพยาบาลสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จัดโดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร โรงพยาบาลสว่างแดนดิน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ อุดรธานี และศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี
นายแพทย์ปรเมศวร์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวเปิดงาน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร บรรยายวิชาการ บทบาทของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในการสนับสนุนงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุทชน รศ.ดร. ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ บรรยายเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคโดยการสร้างกลไกแจ้งเตือนภัย และ การนำเสนอผลการดำเนินงานของ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ (สอน) และ รพสต ในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคชุมชน
โดยมีนวัตกรรมที่เด่น เช่น หมู่บ้านปลอดภัยจากสินค้าอันตราย “รถซาเล้ง” เพื่อการแจ้งเตือนภัย ศูนย์แจ้งเตือนภัยประจำชุมชน อสม. นักวิทย์ชุมชน ทั้งนี้มีผลงานโดดเด่นมากสามารถเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะการป้องกันรถเร่ขายสินค้าไม่ปลอดภัยไม่ให้เอายาหรือเครื่องสำอางค์ที่ผสมสารเตียรอยด์ การใช้รถมอร์เตอไซค์ออกประชาสัมพันธ์สินค้าอันตรายในชุมชน เป็นต้น
ทีมงานของ สสจ. และ รพ.สว่างแดนดิน ตลอดจน รพ.ต่างๆ รพสต. และ อสม. มีความเข้มแข็งมาก น่าจะเป็นแบบอย่างในการปฎิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค มีข้อเสนอให้จัดตั้ง วิทยาลัยป้องกันชุมชน (วปช) ทำหน้าที่เสริมสร้างกำลังคนและสร้างบทเรียนการเรียนรู้ท่ามกลางการปฏิบัติงานจากการทำงานจริงในพื้นที่ เนื่องจากชุมชนมีศักยภาพสูง
ทั้งนี้ในพื้นที่มีการนำจับเครื่องสำอางค์ผสมเสตียรอยด์ โดยนายอำเภอพังโคน เป็นต้น
ลิงค์จับเครื่องสำอางค์ปลอม
http://news.ch7.com/detail/222763/จับแหล่งผลิตเครื่องสำอางปลอม_จ.สกลนคร.html.%20ข่าวช่อง%204